22.11.52

BMW 633 CSI

     BMW ซี่รี่ส์ 6 (E24) เป็นหนึ่งในรถยนต์ของตระกูลใบพัดสีฟ้า ที่ได้รับการยกย่องอยู่เสมอว่า มีดีไซน์สวยงามลงตัวที่สุดรุ่นหนึ่ง โดยได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากรูปทรงของปลาฉลาม กลุ่มนักสะสมรถยนต์จึงตั้งชื่อเล่นให้กับรถยนต์รุ่นนี้ว่า "SHARK"

     BMW ซี่รี่ส์ 6 เป็นรถสปอร์ทคู้ป (Coupe) 2 ประตูระดับหรูหรา ที่ใช้โครงสร้าง และเชสซีส์ของ BMW ซีรีส์ 5 (ใช้ E12ในระหว่าง 1975-1982 และเปลี่ยนแปลงเป็น E28 ตั้งแต่กลางปี 1982 เป็นต้นไป) โดยรุ่นแรกๆ เป็นระบบจ่ายน้ำมันด้วยคาร์บูเรเตอร์ ใช้ชื่อรหัส CS และเมื่อแนะนำระบบหัวฉีดเข้ามาแทนที่ จึงเปลี่ยนมาเป็น CSI  เครื่องยนต์มีหลายขนาดจึงมีหมายเลขรหัสตามปริมาตรเครื่องยนต์ต่อจากเลข 6 ได้แก่ 628, 630, 633, และ 635 โดยมีรุ่นพิเศษสมรรถนะสูงสุด คือ M 6 อีกด้วย

     BMW ซีรีส์ 6 เป็นรถในฝันของผู้คนในยุคนั้น แต่ด้วยราคาที่สูงจึงไม่ได้มียอดผลิตที่สูงมาก แต่ก็เป็นรถยนต์ที่ผลิตอยางต่อเนื่องมาถึง 14 ปีตั้งแต่ พฤศจิกายน คศ.1975 จนมาถึงเมษายน 1989 แต่มีจำนวนทั่งหมด 86,219 คันเท่านั้น และกว่าครึ่งหนึ่งของรถรุ่นนี้ เป็นรถพวงมาลัยซ้าย ซึ่งส่วนใหญ่ส่งไปขายในสหรัฐอเมริกา ทั่วโลกจึงมี BMW ซีรีส์ 6 พวงมาลัยขวาอยู่เพียง 4 หมื่นคันเศษ และเหลืออยู่ในประเทศไทย ประมาณ 15 คันเท่านั้น

     รุ่นที่นักสะสมชาวไทย ควรจะมีไว้สะสมไว้ คือ M6 ไม่เช่นนั้นก็ควรจะเป็น 633 CSI รุ่นแรกๆ เพราะเป็นรุ่นที่มีกันชนเรียวเล็กแนบสนิทกับตัวถังรถ ไม่ใช่ Big Bumper ที่เพิ่งมาเปลี่ยนแปลงภายหลังหลังเมื่อกฎหมายของสหรัฐบังคับ ทั้งนี้เพราะรูปลักษณ์ของ BMW ซีรีส์6 ไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับกันชนใหญ่หนาตั้งแต่แรก ทำให้รุ่นหลังๆขาดความสวยงามที่ลงตัวไป  BMW ซีรีส์ 6 มีชุดแต่งของแท้ ทั้งแอลพิน่า (Alpina) ฮารท์เก้ (Hartge) และชนิตเซอร์ (Schnitzer) แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ แอลพิน่า ซึ่งประกอบด้วยสปอยเลอร์หน้า-หลังที่ทำจากยาง ไม่มีสเกิร์ตข้าง และล้อแม็กนีเซี่ยมลายซี่แบบเรียบๆ

เสน่ห์แห่งดีไซน์ของ BMW ซีรีส์ 6 มีดังนี้

1. จมูกหน้ารูปทรงหัวปลาฉลาม มองดูปราดเปรียว ดุดัน

2. คิ้วโครเมี่ยมรอบคัน ตั้งแต่กระจังหน้า ขอบคิ้วหน้าต่าง คิ้วกันกระแทกด้านข้าง และขอบไฟท้าย

3. บันไดประตูทั้งสองข้าง เป็นอลูมิเนียมในสไตล์เรทโทร

4. เสากลางกระจก หรือ B-Pillar เป็นซี่สวยงาม เรียงเป็นเส้นแบบเหงือกฉลาม

5. หน้าปัด และคอนโซลกลาง เอียงเข้าหาคนขับเล็กน้อย หน้ากากแอร์เป็นรางยาวตลอดแผง

6. หมอนเก้าอี้ด้านหลังยื่นไปคลุมแผงลำโพง

7. กล่องเครื่องมือด้านในฝากระโปรงหลัง

8. ท่อไอเสียคู่แฝด เอียงไปทางด้านซ้ายเล็กน้อย

9. เข็มขัดนิรภัย เป็นแบบสอดเข้าไปในหูล็อคข้างคอนโซล ไม่ใช่แบบรถยนต์ทั่วไป

    BMW ซีรีส์ 6 สภาพดีที่ถูกบูรณะไว้อย่างครบครัน มีอยู่เพียงไม่กี่คันในประเทศไทย ส่วนมากจะพังไปตามอายุ โดยเฉพาะพื้นรถ และกาบบันไดทั้งสองข้างเป็นจุดสะสมสนิม

     เครื่องยนต์รุ่นดั้งเดิมอาจจะจุกจิกเกินกว่าที่จะใช้งานในชีวิตประจำวันได้เสมอ เพราะอาจมีปัญในเรื่อง เครื่องยนต์ร้อน แอร์ไม่เย็น จูนให้นิ่งยาก เครื่องดับง่าย จึงเหมาะที่จะดัดแปลงโดยใช้เครื่องจาก BMW รุ่นใหม่ๆ แต่จะมีราคาสูงมาก อีกทางเลือกหนึ่งก็คือ วางเครื่อง 2JZ-GTE ซึ่งเป็นเครื่องเทอร์โบกำลังแรงถึง 280 แรงม้า เทียบเท่า M6 เลยที่เดียว แต่ราคาย่อมเยากว่ามาก ดูแลรักษาง่าย และประหยัดกว่ามาก เพียงแต่สูญเสียวิญญาณความเป็น BMW แท้ๆไป

     เนื่องจากทั่วโลก ยังมีผู้นิยมสะสมอยู่มาก ชิ้นส่วนอะไหล่ตัวถังส่วนใหญ่ของรถรุ่นนี้จึงยังสามารถสั่งซื้อจากยุโรป และอเมริกาได้ โดยเฉพาะขอบยาง-คิ้วยางกันน้ำของแท้ แต่จะมีราคาค่อนข้างแพงสักหน่อย อะไหล่บางชิ้นจะหายากมาก เช่น กันชน สปอยเลอร์หน้า คอนโซลและชิ้นส่วนภายในต่างๆ ในปัจจุบัน BMW ซีรีส์ 6 จึ่งกลายเป็นหนึ่งใน Retro Collection ซึ่งเป็นที่ต้องการของนักสะสมอยู่เสมอ และมีราคาสูงขึ้นทุกวัน

      เจ้าของ BMW ซีรีส์ 6 ทั่วโลก ทั้งในยุโรป อเมริกา และเอเซีย รวมตัวกันอยู่ใน www.bigcoupe.com ซึ่งมีแกลเลอรี่แสดงภาพไว้มากมาย มีเว็บบอร์ดพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และแลกเปลี่ยนซื้อขายอะไหล่มือสอง รวมทั้งมีตารางกิจกรรมที่รวมตัวกันอยู่เป็นประจำ เช่น SHARKFEST ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งรวมตัวกันขับรถ BMW ซีรี่ส์ 6 ข้ามมลรัฐต่างๆ กันเป็นประจำทุกปี
  
      หากชื่นชอบ และได้เป็นเจ้าของ BMW ซีรีส์ 6 แล้ว ยังมีรุ่นอื่นๆ ที่น่าเสาะหามาสะสมเพิ่มเติม ซึ่งได้แก่ BMW 3.0 CSI ซึ่งถือเป็นต้นแบบของซีรีส์ 6,  BMW ซีรี่ส์ 3 รุ่นแรก (E21) ซึ่งเป็นคู่แฝดทรงปลาฉลามขนาดเล็ก และ BMW ซีรี่ส์8 เป็นรุ่นที่พยายามเข้ามาแทนที่ซีรีส์ 6 ในยุค 90

รายละเอียด BMW ซีรีส์ 6 คันนี้ มีดังนี้

* รุ่น 633 csi

* สีดำ แห้งช้า เงาพิเศษ ของ Glasurit (นกแก้ว) บูรณะเมื่อตุลาคม 2552 ภายในหนังแท้สีแดง

* เครื่องยนต์ 2JZ-GTE 6สูบ 3,000 cc. ทวินเทอร์โบ 280 แรงม้า

* ดิสก์เบรค 4 ล้อ เปลี่ยนเป็นของ Brembo แท้ทั้งหมด

* ล้อ Magnesium Alloy ของ A.C. Schnitzer Type 4 ขอบ 19 นิ้ว ล้อหน้ากว้าง 7 นิ้ว ล้อหลัง 9 นิ้ว ยางหน้า มิชเชอแลง 235/45/19 ยางหลัง มิชเชอแลง 265/45/19

* เครื่องเสียง ฟร้อนท์: Clarion, แอมปลิไพเออร์: Soundstream รุ่น Picasso 5 channels, ลำโพง: Morrel ทั้งหน้า-หลัง, ลำโพงซับเบส: Focal

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอ คน รักรถคลาสสิค

ผู้ติดตาม